Secret of the Millionaire Mind (ถอดรหัสลับสมองพันล้าน) หนังสือ ของ T.Harv Ecker ได้กล่าวถึงความคิดที่ต่างกันของคนจนกับคนรวย เพราะทัศนคติ ความเชื่อ จิตสำนึก ของคนเรา ที่ถูกสร้างขึ้น จากสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบๆ ตัวเรา ตั้งแต่เกิด และเป็นตัวตั้งต้น ให้เกิดความต่างในเรื่องแนวคิด และส่งผลต่อการเป็นคนรวย หรือ คนจน ของคนๆ หนึ่งได้
คีย์ของ สมองพันล้าน คือ สมองของมนุษย์เราทุกคน เป็นที่เก็บข้อมูล เปรียบเหมือน กล่องใส่เครื่องมือ ซึ่งเดิมนั้นว่างเปล่า และเมื่อเราค่อยๆ เติบโตขึ้น เราก็ทยอยรับเอาเครื่องมือต่างๆ ใส่ ลงใน กล่องเครื่องมือนี้ และเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ เป็นเหมือนแผนผังการเงิน ความสำเร็จ ที่ถูกฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก และ เป็นตัวกำหนด วิธีการบริหารการเงินของเราโดยไม่รู้ตัว สิ่งสำคัญคือ มันมักอยู่ติดตัวเราไปจนตลอดชีวิต
เครื่องมือที่ทยอยบรรจุเข้ากล่องเครื่องมือเรา มาจากหลายทิศทาง ในหนังสือ บอกถึงสิ่งแรกคือ
คำพูด ที่เคยได้ยิน อาจจากตอนเป็นเด็กๆ หรือ ได้รับฟังคำนั้นซ้ำๆ เช่น คนรวยมักนิสัยไม่ดี เว่อ..... แล้วตอนนี้ ก็คิดว่าคงมีหลายๆ คนเลย ที่ขยะแขยงคนรวย โดยอาจไม่รู้สาเหตุว่าทำไมด้วยซ้ำ
ข้อสอง ต้นแบบ ลองสังเกตุดูว่า หากครอบครัวไหน ที่พ่อ หรือ แม่ เป็นคนค้าขายเก่ง ลูกๆ ก็มักหล่นไม่ไกลต้น คิดเรื่องค้าขาย ได้ อย่างมีทักษะ เป็นธรรมชาติ และครอบครัวไหนที่เป็นนักวิชาการ ลูกๆ มักเป็นแนวเดียวกัน ซึ่ง เรื่องนี้ บางครั้ง ก็อาจมีบางคน ที่ไม่เหมือนต้นแบบ หรือ ห่างจากต้นแบบ ก็เป็นได้
ข้อที่สาม คือ ความฝังใจเรื่องนี้เข้าใจได้ง่ายๆ เลย เหตุการณ์ฝังใจ ทำให้คนเราเปลี่ยนทัศนคติ หรือ แนวทางการดำเนินชีวิตได้เลยทีเดียว
ประเด็นคือ เมื่อเรารู้เหตุแล้ว เราต้องแยกแยะให้ออก แล้วลองปรับเปลี่ยนสิ่งที่เราเชื่่อ ถ้าเราอยากเป็นคนประสบความสำเร็จในงาน เราต้องจัดการกับความเชื่อ หรือเครื่องมือของเราก่อน ว่า เราควรเก็บอะไรไว้ แล้วเลือกเครื่องมือชิ้นใหม่ตัวไหน แทนที่ แล้วเดินตามแผนผังใหม่ คิดและทำอย่างคนที่จะมุ่งสู่ถนนแห่งความสำเร็จ การไม่เหนื่อยที่จะเรียนรู้, เมื่อศึกษาจนเข้าใจย่อมทำให้เกิดความคิด และความคิดจะแสดงออกทางการกระทำ และผลลัพท์ย่อมเป็นไปตามการกระทำ
ลึกๆในใจของ หลายๆ คน อาจคิดว่าเงินไม่ได้สำคัญ ไม่ใช่ทุกสิ่ง และ บางคนอาจคิดว่าเงิน คือ ตัวปัญหา การคิดแบบนี้ ที่จริงก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากเราลองคิดดูว่า ถ้าเราคิดว่า คนรัก เพื่อน ฯลฯ ไม่สำคัญ ไม่ใช่ทุกสิ่ง หรือ เป็นตัวปัญหา คุณว่า เค้าเหล่านั้นยังอยากจะอยู่กับเรารึเปล่า จริงอยู่ เงินไม่มีชีวิตหรอก แต่ อะไรก็ตามที่เราเห็นว่าไม่สำคัญ การแสดงออก การกระทำ ก็จะแสดงออกในทางที่ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ หรือ ทำให้มันหมดไป
สิ่งที่น่าสนใจในหนังสือ T.Harv Eker อีกข้อคือ เขาได้กล่าวถึงจุดเล็กๆ ที่ดีมากๆ คือ เมื่อไรที่เราล้ม ผิดพลาด ไม่ว่า ในเรื่องงาน เงิน ธุรกิจ หรือ เรื่องครอบครัว นั้นเกิดจาก " มีบางสิ่งที่เรายังไม่รู้" และ หากว่าเราสามารถแยกแยะและยอมรับได้จริงๆ ว่าเรายังรู้ไม่พอ หรือ ยังขาดความเข้าใจ สิ่งนี้แหละที่จะเป็นแรงกระตุ้น ให้เราเริ่มเรียน เพื่่อค้นหา และ นำมาปรับใช้หรือแก้ปัญหาต่างๆได้
คีย์ของ สมองพันล้าน คือ สมองของมนุษย์เราทุกคน เป็นที่เก็บข้อมูล เปรียบเหมือน กล่องใส่เครื่องมือ ซึ่งเดิมนั้นว่างเปล่า และเมื่อเราค่อยๆ เติบโตขึ้น เราก็ทยอยรับเอาเครื่องมือต่างๆ ใส่ ลงใน กล่องเครื่องมือนี้ และเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ เป็นเหมือนแผนผังการเงิน ความสำเร็จ ที่ถูกฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก และ เป็นตัวกำหนด วิธีการบริหารการเงินของเราโดยไม่รู้ตัว สิ่งสำคัญคือ มันมักอยู่ติดตัวเราไปจนตลอดชีวิต
เครื่องมือที่ทยอยบรรจุเข้ากล่องเครื่องมือเรา มาจากหลายทิศทาง ในหนังสือ บอกถึงสิ่งแรกคือ
คำพูด ที่เคยได้ยิน อาจจากตอนเป็นเด็กๆ หรือ ได้รับฟังคำนั้นซ้ำๆ เช่น คนรวยมักนิสัยไม่ดี เว่อ..... แล้วตอนนี้ ก็คิดว่าคงมีหลายๆ คนเลย ที่ขยะแขยงคนรวย โดยอาจไม่รู้สาเหตุว่าทำไมด้วยซ้ำ
ข้อสอง ต้นแบบ ลองสังเกตุดูว่า หากครอบครัวไหน ที่พ่อ หรือ แม่ เป็นคนค้าขายเก่ง ลูกๆ ก็มักหล่นไม่ไกลต้น คิดเรื่องค้าขาย ได้ อย่างมีทักษะ เป็นธรรมชาติ และครอบครัวไหนที่เป็นนักวิชาการ ลูกๆ มักเป็นแนวเดียวกัน ซึ่ง เรื่องนี้ บางครั้ง ก็อาจมีบางคน ที่ไม่เหมือนต้นแบบ หรือ ห่างจากต้นแบบ ก็เป็นได้
ข้อที่สาม คือ ความฝังใจเรื่องนี้เข้าใจได้ง่ายๆ เลย เหตุการณ์ฝังใจ ทำให้คนเราเปลี่ยนทัศนคติ หรือ แนวทางการดำเนินชีวิตได้เลยทีเดียว
ประเด็นคือ เมื่อเรารู้เหตุแล้ว เราต้องแยกแยะให้ออก แล้วลองปรับเปลี่ยนสิ่งที่เราเชื่่อ ถ้าเราอยากเป็นคนประสบความสำเร็จในงาน เราต้องจัดการกับความเชื่อ หรือเครื่องมือของเราก่อน ว่า เราควรเก็บอะไรไว้ แล้วเลือกเครื่องมือชิ้นใหม่ตัวไหน แทนที่ แล้วเดินตามแผนผังใหม่ คิดและทำอย่างคนที่จะมุ่งสู่ถนนแห่งความสำเร็จ การไม่เหนื่อยที่จะเรียนรู้, เมื่อศึกษาจนเข้าใจย่อมทำให้เกิดความคิด และความคิดจะแสดงออกทางการกระทำ และผลลัพท์ย่อมเป็นไปตามการกระทำ
ลึกๆในใจของ หลายๆ คน อาจคิดว่าเงินไม่ได้สำคัญ ไม่ใช่ทุกสิ่ง และ บางคนอาจคิดว่าเงิน คือ ตัวปัญหา การคิดแบบนี้ ที่จริงก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากเราลองคิดดูว่า ถ้าเราคิดว่า คนรัก เพื่อน ฯลฯ ไม่สำคัญ ไม่ใช่ทุกสิ่ง หรือ เป็นตัวปัญหา คุณว่า เค้าเหล่านั้นยังอยากจะอยู่กับเรารึเปล่า จริงอยู่ เงินไม่มีชีวิตหรอก แต่ อะไรก็ตามที่เราเห็นว่าไม่สำคัญ การแสดงออก การกระทำ ก็จะแสดงออกในทางที่ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ หรือ ทำให้มันหมดไป
"เงินไม่ใช่สิ่งเลวร้าย เงินช่วยคุณได้ ช่วยคนอื่นที่ลำบากกว่าคุณได้ "
สิ่งที่น่าสนใจในหนังสือ T.Harv Eker อีกข้อคือ เขาได้กล่าวถึงจุดเล็กๆ ที่ดีมากๆ คือ เมื่อไรที่เราล้ม ผิดพลาด ไม่ว่า ในเรื่องงาน เงิน ธุรกิจ หรือ เรื่องครอบครัว นั้นเกิดจาก " มีบางสิ่งที่เรายังไม่รู้" และ หากว่าเราสามารถแยกแยะและยอมรับได้จริงๆ ว่าเรายังรู้ไม่พอ หรือ ยังขาดความเข้าใจ สิ่งนี้แหละที่จะเป็นแรงกระตุ้น ให้เราเริ่มเรียน เพื่่อค้นหา และ นำมาปรับใช้หรือแก้ปัญหาต่างๆได้