ตัดเศษด้วยฟังก์ชัน TRUNC กับ INT
การทำงานของฟังก์ชัน TRUNC นั้น คล้ายกับการทำงานของฟังก์ชัน INT คือ ส่งกลับค่าที่เป็นจำนวนเต็ม
ต่างกันแค่วิธีตัดเศษ ซึ่งการเลือกใช้ ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าต้องการ รูปแบบของผลลัพท์ อย่างไร
ต่างกันแค่วิธีตัดเศษ ซึ่งการเลือกใช้ ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าต้องการ รูปแบบของผลลัพท์ อย่างไร
- ฟังก์ชัน TRUNC จะลบจำนวน ที่เป็นเศษส่วนออกและถ้าใช้ค่าที่เป็นลบ เช่น TRUNC (-2.5) ฟังก์ชัน จะส่งกลับค่า -2
- ฟังก์ชัน INT จะปัดเศษขึ้น เป็นจำนวนเต็มที่ใกล้ที่สุด โดยยึดค่าของเศษส่วน เป็นหลัก เมื่อมีการใช้ตัวเลขลบ เช่น INT( -2.5) จะส่งกลับค่า -3 เพราะเป็นตัวเลข ที่น้อยกว่า
- ฟังก์ชัน TRUNC กำหนดจำนวนทศนิยมได้ ในขณะที่ ฟังก์ชัน INT ทำไม่ได้
=TRUNC (number,num_digits)
- number คือตัวเลขที่คุณต้องการตัดเศษทิ้ง
- num_digits คือจำนวนที่ใช้ระบุความแม่นยำของการตัดเศษ ซึ่งมีค่าเริ่มต้นคือ 0 (ศูนย์)
ไวยากรณ์ฟังก์ชัน INT
=INT (number)
- number คือจำนวนจริงที่คุณต้องการปัดเศษเพื่อให้เหลือเป็นจำนวนเต็ม
ตารางตัวอย่าง
Row | Column | ||||
---|---|---|---|---|---|
A
|
B
|
C
|
D
|
E
|
|
1 | ข้อมูล |
1.2
|
4.8
|
-5.3
|
-8.8
|
2 | แทนค่า INT | =INT(B1)
|
=INT(B1+C1)
|
=INT(D1/B1)
|
=INT(E1)
|
3 | ผลลัพท์ INT |
1
|
6
|
-5
|
-9
|
4 | แทนค่า TRUNC |
=TRUNC(B1-C1)
|
=TRUNC(C1,2)
|
=TRUNC(D1-C1)
|
=TRUNC(E1*B1)
|
5 | ผลลัพท์ TRUNC |
-3
|
4.80
|
-10
|
-7
|
อธิบายการใช้ฟังก์ชัน INT กับ ฟังก์ชัน TRUNC จากตารางข้างบน
- เมื่อตัวเลขเป็นด้านบวก ทั้งสองฟังก์ชันจะตัดเศษออก และให้ผลลัพท์เหมือนกัน
- ถ้าตัวเลขเป็นด้านลบ ทั้งสองฟังก์ชันจะแสดงผลที่ต่างกัน INT ปัดเศษ แต่ TRUNC ตัดเศษ
- B1+C1 = 6 เมื่อผลลัพท์เป็นจำนวนเต็มก็ไม่มีการตัดเศษ ซึ่งทั้งสองฟังก์ชันจะให้ผลลัพท์เท่ากัน
- INT(E1) = -9 เพราะ E1 = 8.8, ฟังก์ชัน INT ปัดเศษเป็น -8 แต่ถ้าเป็น TRUNC(E1) จะได้ผลลัพท์เป็น -9
- D1/B1 = -4.41666666666667 ฟังก์ชัน INT ปัดเศษเป็นเลขจำนวนเต็มที่ใกล้ที่สุด คือ -5
- B1-C1 = -3.6 ฟังก์ชัน TRUNC ตัดเศษ ให้เหลือเลขจำนวนเต็ม คือ -3
- D1-C1 = -10.1 ฟังก์ชัน TRUNC ตัดเศษ ให้เหลือเลขจำนวนเต็ม คือ -10
- TRUNC(C1,2) = 4.80 กำหนดทศนิยม 2 ตำแหน่งให้กับฟังก์ชัน TRUNC ถ้าไม่กำหนดผลลัพท์จะได้ 4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น