Search

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

รักษ์ต้นไม้-Save the Forest

Save The Forest

Tree
Photo by Pisanu Auam-Rod

มนุษย์เป็นสิ่งเดียวในโลก ที่ตัดต้นไม้ เพื่อทำกระดาษ
แล้วเขียนบนกระดาษว่า"อนุรักษ์ต้นไม้"

อันที่จริงกระแส Paperless นั้นมีมาหลายปีพอสมควร แต่การไม่ใช้กระดาษ แทบเป็นไปไม่ได้เลย โดยเฉพาะหากเทคโนโลยี ไม่ได้ครอบคลุมทั่วถึงจริงๆ การถือกำเนิดของ กระดาษ นั้นเกิดจากความต้องการที่จะจดบันทึก ในสมัยโบราณ กระดาษจึงมีประวัติศาสตร์ แสนยาวนานเลยก็ว่าได้ เชื่อกันว่ากระดาษถูกผลิต ในครั้งแรกๆ โดยชาวอียิปต์ และชาวจีนโบราณ แต่ด้วยภูมิศาสตร์ที่ต่างกัน วิธีการผลิตและวัตถดิบที่ใช้ก็ต่างกันด้วย

กระดาษที่ผลิตด้วยวิธีของชาวอีอียิปต์โบราณ นั้นผลิตจากต้นกกชนิดหนึ่ง เรียกว่า พาไพรัส (papyrus) กระดาษที่ได้จึงเรียกกันว่ากระดาษพาไพรัส ซึ่งพบว่ามีการใช้จารึกบทสวดและคำสาบาน บรรจุไว้ในพีระมิด ของชาวอียิปต์โบราณ นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่ามีการใช้กระดาษที่ทำจากพาไพรัส ในอียิปต์โบราณตั้งแต่ปฐมราชวงศ์ของอียิปต์ ซึ่งราว 3,000 ปีก่อนคริสตกาล

ในแผ่นดินจีน ใช้เปลื่อกไม้ไผ่ หรือ ต้นหม่อน มาต้มจนได้เยื่อกระดาษแล้วมาเกลี่ยบนตระแกรง ทิ้งไว้ให้แห้ง ต่อมาวิธีผลิตกระดาษ ลักษณะนี้ จึงแพร่หลายไปอย่างรวด เร็ว
ชาวมุสลิม รู้จักวิธีทำกระดาษ จากเชลยชาวจีน ในสงคราม ทัลลัส ซึ่งกองทัพจีนรบกับกองทัพมุสลิม ได้เปิดเผยวิธีทำกระดาษแก่ชาวมุสลิมเพื่อให้ได้รับการปล่อยตัว ชาวมุสลิมได้ปรับปรุง โดยใช้เศษผ้าลินิน แทนต้นหม่อน และได้พัฒนากระดาษให้เป็นเยื่อบางโดยการทุบด้วยค้อน
ต่อมากระดาษจึงได้แพร่หลายไปแบกแดด, ปาเลสไตน์ จนถึงยุโรป และใช้กันไปทั่วโลก เรียกได้ว่า การเขียน เป็นแรงผลักดันให้เกิดการผลิตกระดาษขึ้น ถ้าหากมองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มนุษย์เราไม่ได้ใช้กระดาษแค่การจดบันทึกเท่านั้น แต่ยังใช้สร้างสรรค์งานศิลปะ, ใช้ในชีวิตประจำวัน และ ดัดแปลงเป็นวัสดุใช้อื่นๆ เช่น กล่องกระดาษ กระดาษทิชชู เป็นต้น
ตัวอย่างงาน Paper Sculpture สวยๆ ที่ทำจากกระดาษ
paper sculpture 1
paper sculpture2
paper sculpture3
ปัจจุบัน ในประเทศไทยเรา ใช้ไม้ยูคาลิปตัสเป็น วัตถุดิบในการทำกระดาษ เพราะต้องการ เซลลูโลสของต้นไม้ ในการผลิต อันที่จริงเซลลูโลสมีอยู่ในพืชทุกชนิด แต่ต่างกันเรื่องความแข็งแรง เช่น เซลลูโลส จากฟางข้าว หรือชานอ้อย ความข็งแรงไม่เพียงพอ กระดาษทำจากต้นไม้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเหมือนสมัยก่อน เพราะความต้องการกระดาษ มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากเยื่อกระดาษ ประมาณ 70%+ ส่วนที่เหลือเป็นสารอื่นๆ เช่นผงแร่สีขาว สารป้องกันการซึมน้ำ หรือ แป้ง เพื่อเพิ่มความเหนียวและลื่นมันเงา ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ได้คุณสมบัติตามที่ต้องการ
เยื่อกระดาษมี 2 ชนิด คือ "เยื่อใยยาว มีความแข็งแรงสูง ทำมาจากไม้เนื้ออ่อน มีการยึดเกี่ยวกันสูง ทนต่อแรงดึง แรงฉีก เป็นต้นไม้ที่เติบโตในที่อากาศเย็น ได้แก่ ไม้พวกสน และสปรูซ ไม่สามารถปลูกในเมืองไทยได้
ส่วนเยื่อกระดาษอีกชนิดหนึ่งคือ "เยื่อใยสั้น" มีลักษณะละเอียด ไม่แข็งแรง แต่ข้อดีคือช่วยให้เนื้อกระดาษสม้ำเสมอ เรียบ ทีบแสง แต่ข้อเสีย คือ ไม่สร้างความแข็งแรงให้กระดาษ ทำมาจากไม้เนื้อแข็งเมืองร้อน เช่น ยูคาลิปตัส กระถินเทพา เบิร์ช แอสเพน
นอกจากเยื่อไม้แล้ว ยังต้องเติมสารอื่น เช่น "สารฟอกนวล" เพื่อให้กระดาษขาวสว่าง, "สารต้านการซึมน้ำ" ทำให้กระดาษทนต่อการเปียกน้ำได้ดีขึ้น เติม "แป้ง และ สารส้ม" เพิ่มความเหนียวของกระดาษ "lสีย้อม" รักษาระดับสีของกระดาษ, "สารควบคุมจุลชีพ" ทำให้ไม่เกิดเชื้อราได้ง่าย และ "สารช่วยการยีดตัวของเยื่อและไฟเบอร์"
credit: http://th.wikipedia.org
  www.rongpimjr.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น